Cute Polka Dotted Rainbow Bow Tie Ribbon Cute Polka Dotted Rainbow Bow Tie Ribbon

Conversation

   


ประโยคสนทนาทางโทรศัพท์




ถามว่าใครโทรมา


– May I ask who is calling, please?
= ขอถามได้ไหมครับ/คะ ว่าใครโทรมาครับ/คะ

– May I have your name, please?
= ขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ/คะ

– Who’s calling, please?
= ใครโทรมาครับ/คะ

– Who is this?
= นี่ใครหรอ

ถามคนโทรมาว่าต้องการคุยกับใคร

– Who would you like to speak to?
= คุณต้องการพูดกับใครครับ/คะ

– Who are you calling for?
= คุณโทรมาหาใครครับ/คะ

การถามหาคนที่ต้องการสนทนาด้วย

– May I speak to Tony?
= ขอพูดสายกับโทนี่หน่อยครับ/ค่ะ

– I’d like to talk to Tony.
= อยากพูดสายกับโทนี่สักหน่อยครับ/ค่ะ

– Tony, please.
= (คุยกับ)โทนี่หน่อยครับ/ค่ะ

– Is Tony there?
= โทนี่อยู่ไหม

บอกว่าเราเป็นใคร

– TonAmorn Company, may I help you?
= บริษัทต้นอมร มีอะไรให้ช่วยเหลือบ้างครับ/คะ

– This is Amorn from TonAmorn Company.
(This is …+ name… from …+ company…)
= นี่อมร จากบริษัทต้นอมรครับ

– This is Amorn.
(This is + …name…)
= ผมอมรนะครับ

บอกให้รอสักครู่ ภาษาอังกฤษ

– Could you wait for just one moment, please?
= กรุณารอสักครู่ครับ/ค่ะ

– One moment, please.
= สักครู่ครับ/ค่ะ

บอกว่าเขาคนนั้นติดธุระอยู่

– He/She is not available at the moment.
= ตอนนี้เขาไม่ว่างเลยครับ

คำศัพท์น่ารู้
available (อะเวล’ละเบิล) ว่าง, มีอยู่, ใช้ประโยชน์ได้

บอกว่าเขากำลังติดสายอื่นอยู่

– His/Her line is busy right now.
– He/She is on another line right now.
– He/She is on the phone at the moment.

ฝากข้อความ ขอให้โทรกลับ

– Could you please take a message for me?
= ช่วยกรุณารับข้อความไว้ได้ไหมครับ/คะ

– Could you ask him/her to call me back?
= กรุณาบอกให้เขาโทรกลับหาฉันด้วยได้ไหมครับ/คะ

– May I leave a message?
= ฉันฝากข้อความไว้หน่อยได้ไหมครับ/คะ

– Please tell him/her I called.
= ช่วยบอกเขาหน่อยว่าฉันโทรมาครับ/ค่ะ

ประโยคพูดเมื่อเราโทรกลับไป

– I’m sorry I missed your call this morning.
= ขอโทษที่เมื่อเช้าพลาดสายของคุณครับ/ค่ะ

– I’m returning your call from this morning.
= ฉันโทรกลับจากเมื่อเช้าที่คุณโทรมาครับ/ค่ะ

– This is Tony, returning your call from this morning.
= นี่โทนี่นะ โทรกลับจากเมื่อเช้าที่คุณโทรมาครับ

– I heard you called me.
= ได้ยินว่าคุณโทรมาหาฉัน

อ้างอิง:http://www.tonamorn.com/english/conversation/telephone/



บทสนทนาเกี่ยวกับการนัดหมาย




การนัดหมาย (Making Appointments)

- I need to make an appointment with you for business discussion.
= (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)

- Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow?
= (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)

- Could I see you sometime this week?
= (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)

- Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.?
= (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)

- Can we get together and discuss for more?
= (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)

- Could I make an appointment to see you next week?
= (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)

นัดเวลาสำหรับนัดหมาย (Setting up time for Appointments)

- Is next Monday convenient for you?
= (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)

- Can we meet on the 2nd of January?
= (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)

- How about tomorrow at 9.00 a.m.?
= (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)

- Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock?
= (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)

- When can we meet?
= (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)

- Are you available on the 8th?
= (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)

- Is 11 a.m. a good time for you?
= (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)

- What about sometime next week?
= (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)

- Can (could) we meet on Wednesday instead?
= (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)

- Is this time OK with you?
= (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)

- What time would be convenient for you?
= (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)

- Please call me up what is the good time for you.
= (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)

- Would Sunday suit you?
= (วันอาทิตย์สะดวกไหม)

- Are you free next week?
= (อาทิตย์หน้าว่างไหม)

- I would like to see you at your earliest convenience.
= (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)

การปฏิเสธนัด (Rejection of Appointment)

- I’m sorry, I have another engagement.
= (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)

- I’m sorry, I’ll be on leave at that time.
= (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)

- I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday.
= (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)

- I’m expecting someone at that time.
= (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)

- I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon.
= (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)

- I’m very sorry, but something urgent has come up.
= (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)

- I’m fully booked up.
= (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)

ตัวอย่างที่ 1 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

A : Good morning. I would like to make an appointment to see Mr. Smith.
(สวัสดีครับ ผมอยากจะขอนัดพบคุณสมิธ)

B : When do you want to see him?
(คุณต้องการพบเขาเมื่อไรครับ)

A : Is Friday at 9.00 a.m. convenient for him?
(วันศุกร์ 9 โมงเช้าสะดวกสำหรับเขาไหมครับ)

B : Let me see first …. OK. Your appointment will be Friday at 9.00 a.m.
(ผมขอดูก่อนนะ .... ตกลงครับ การนัดหมายของคุณคือ วันศุกร์ 9 โมง)

A : Thank you very much.
(ขอบคุณมากครับ)


ตัวอย่างที่ 2 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

(A = Somsri , B = Somchai)

A : Good morning, may I speak to khun Somchai, please?
(สวัสดีครับ ขอเรียนสายกับคุณสมชาย ครับ)

B : Hello, this is Somchai speaking.
(สวัสดีครับ ผมสมชายพูดครับ)

A : This is Somsri, Mr. Somkiat’s secretary. He would like to make an appointment with you sometime next week.
(ดิฉัน สมศรีค่ะ เป็นเลขานุการของคุณสมเกียรติ คุณสมเกียรติต้องการนัดพบคุณสัปดาห์หน้าค่ะ)

B : On what business he has with me?
(เขาต้องการพบผมในเรื่องธุรกิจอะไรครับ)

A : He has a new proposal to present to you. (
เขามีข้อเสนอใหม่ที่จะนำเสนอคุณค่ะ)

B : Certainly. I’m available on Tuesday from 10 to 12 in the morning. Could he come to see me at my office by that time?
(ได้สิ ผมว่างวันอังคาร ตั้งแต่ 10-12 โมงเช้า เขาจะมาพบที่ออฟฟิตผมได้ไหมล่ะ)

A : Yes, he can. Thank you sir.
(ได้ค่ะ เขาไปได้ ขอบคุณมากค่ะ)

B : OK. Bye.
(ตกลงนะ สวัสดี)

อ้างอิง : http://everydayenglish.pwa.co.th/article/บทสนทนาเกี่ยวกับ การนัดหมาย

บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร





1. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: จองโต๊ะร้านอาหาร

A : (On the phone) Four Seasons Restaurant. May I help you?
(ออน เธอะ โฟน) โฟร์ ซีซันส์ เรสเตอรันท เมย์ ไอ เฮลพ ยู
(ขณะสนทนาทางโทรศัพท์) ภัตตาคาร 4 ซีชั่น มีอะไรให้รับใช้คะ

B : Yes. I’d like to make a reservation for dinner tomorrow.
(เยส ไอ’ด ไล้ค ทู เมค อะ เรเซอร์เวชั่น ฟอร์ ดินเนอร์ ทูมอร์โรว)
ครับ ผมต้องการจองโต๊ะรับประทานอาหารเย็นวันพรุ่งนี้

A : I see. What time will you come, sir?
(ไอ ซี ว้อท ไทม์ วิล ยู คัม เซอร์)
ตกลงค่ะ คุณจะมาถึงกี่โมงคะ

B : Around 7.
(อะราว เซเว่น)
ประมาณหนึ่งทุ่มครับ

A : May I have your name, please ?
(เม ไอ แฮฟว ยัวร์ เนม พลีส)
ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ

B : Mike Chen.
(ไมค์ เชน)
ไมค์ เชน

A : How many will be in your party ?
(ฮาว เมนี่ วิล บี อิน ยัวร์ ปาร์ตี้)
จะมีผู้มาร่วมงานกี่ท่านคะ

B : Three. I’d prefer a table by the window.
(ทรี ไอ’ด พรีเฟอร์ อะ เทเบิ้ล บาย เธอะ วินโด้ว)
3 คนครับ ผมต้องการโต๊ะใกล้หน้าต่างด้วยนะครับ

——————————

A : Do you have a table for two ?
(ดู ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล ฟอร์ ทวู)
คุณมีที่นั่งสำหรับ 2 ที่ไหมครับ

B : Do you have a reservation ?
(ดู ยู แอฟว อะ เรเซอร์เวชั่น)
ไม่ทราบคุณจองที่ไว้หรือเปล่าคะ

A : No.
(โน)
ไม่ครับ

B : I’m sorry, but there’re no tables available now.
(ไอ’ม ซอรี่ บัท แธร์’ร โน เทเบิ้ล อะไวลเลเบิ้ล นาว)
ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เรายังไม่มีที่ว่างตอนนี้เลย

A : How long will it be ?
(ฮาว ลอง วิล อิท บี)
จะใช้เวลานานแค่ไหนครับ

B : I’m not sure…. In about 20 minutes ? Would you like to wait in the bar?
(ไอ,ม น้อท ชัวร์…. อิน อะเบ้าท์ ทเว้นตี้ มินนิทส์ วู้ด ยู ไล้ค ทู เวท อิน เธอะ บาร์)
ดิฉันไม่แน่ใจ ประมาณ 20 นาที ไม่ทราบว่าคุณจะรอที่บาร์ได้ไหมคะ

A : Fine. Please call us when you have a table.
(ไฟน์ พลีส คอล อัส เว็น ยู แฮฟว อะ เทเบิ้ล)
ได้ครับ กรุณาเรียกเราเมื่อมีที่ว่างครับ

——————————

A : Shogun Restaurant. (ร้านอาหารโชกุนค่ะ)

B : Hi, I would like to make a dinner reservation. (ค่ะ ฉันอยากจะทำการจองโต๊ะค่ะ)

A : Of course, what evening will you be joining us on? (ได้ค่ะ คุณอยากจะจองในเย็นไหนคะ)

B : We will need the reservation for Tuesday night. (เราอยากจะจองในคืนวันอังคาร)

A : What time would you like the reservation for? (คุณอยากจะจองในเวลาเท่าไหร่)

B : We would prefer 7:30 pm. (เราอยากจองทุ่มครึ่ง)

A : How many people will you need the reservation for? (คุณจะจองสำหรับคนจำนวนเท่าไหร่คะ)

B : There will be 4 of us. (สี่ท่านค่ะ)

A : Fine, 7:30 on Tuesday, may i have your name. (ค่ะ หนึ่งทุ่มสามสิบนาที วันอังคาร ขอทราบชื่อคุณด้วยค่ะ)

B : My name is Sara. (ฉันชื่อซาร่าค่ะ)

A : See you at 7:30 this Tuesday, Ms. Sara. (เจอกันทุ่มสามวันอังคารนี้นะคะ คุณซาร่า)

B : Thank you so much. (ขอบคุณมากค่ะ)

————————————————————————

2. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: ที่ร้านอาหารหรือภัตตาคาร

A : May I take your order, sir ?
(เม ไอ เทค ยัวร์ ออร์เดอร์ เซอร์)
คุณจะสั่งอาหารอะไรดีคะ

B : Yes. This gentleman will have the beef stew, and I’ll have the sirloin steak.
(เยส ธีส เจนเทิลแมน วิล แฮฟว เธอะ บีฟ สตูล แอนด์ไอ’ล แฮฟว เธอะ ซิลอย สเต็ก)
ครับ คุณผู้ชายคนนี้ขอรับสตูลเนื้อ และของผมขอสเต็กเนื้อครับ

A : Yes, sir. And how would you like your beef ?
(เยส เซอร์ แอนด์ ฮาว วู้ด ยู ไล้ค ยัว บีฟ)
ได้ค่ะ และคุณต้องการเนื้อสุกแบบไหนคะ

B : Well-done, please.
(เวล-ดัน พลีส)
ขอสุกๆครับ

A : How about you, sir ?
(ฮาว อะเบ้าท์ ยู เซอร์)
แล้วสำหรับคุณล่ะคะ

C : Medium-rare, please.
(มีเดียม-แรร์ พลีส)
ขอปานกลางครับ

A : Yes, sir. Would you like a drink first with your meal ?
(เยส เซอร์ วู้ด ยู ไล้ค อะ ดริ้ง เฟริสท์ วิธ ยัวร์ มีล)
ค่ะ คุณต้องการจะรับเครื่องดื่มก่อนหรือไม่คะ

B : Why don’t we have cocktails ?
(วาย โด้น วี แฮฟว ค้อกเทลส์)
ทำไมเราไม่ลองเป็นค้อกเทล

——————————

A : This was a splendid meal. I really enjoyed it.
(ธีส ว้อส ระ สเพลนดิด มีล ไอ เรียลรี่ เอ็นจอยด์ อิท)
อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่วิเศษที่สุด ผมรู้สึกอิ่มอร่อยจริงๆ

B : I’m glad you like it. Will you have a cognac to round off the meal ?
(ไอม แกรด ยู ไล้ค อิท วิล ยู เฮฟว อะ คองยัค ทู เรานด ออฟ เธอะ มีล)
ดิฉันรู้สึกยินดีที่คุณชอบ ไม่ทราบคุณจะรับบรั่นดีตบท้ายมื้ออาหารไหมคะ

A : I don’t mind if you do.
(ไอ โด้น มายด์ อีฟ ยู ดู)
ผมไม่ครับ ถ้าคุณต้องการ

C : Waiter, show me the cognac list.
(เวทเทอร์ โชว์ มี เธอะ คองยัค ลิสท์)
บริกรครับ ให้ผมดูรายการบรั่นดีหน่อยครับ

B : Yes, sir.
(เยส เซอร์)
ได้ค่ะท่าน

——————————————————————————————

3. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด

A : Welcome, what would you like to order? (ยินดีต้อนรับครับ คุณอยากสั่งอะไรครับ)

B : I would like to get a double cheeseburger. (ฉันอยากได้ชีสเบอร์เกอร์สองชิ้นค่ะ)

A : Would you like everything on it? (คุณอยากใส่รวมทุกอย่างใช่ไหมครับ)

B : I would like everything on it, thank you. (ฉันต้องการใส่ทุกอย่างเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ)

A : Do you want any fries? (คุณจะรับมันฝรั่งทอดด้วยไหมครับ)

B : Let me get some large fries. (เอามันฝรั่งทอดใหญ่ให้ฉันค่ะ)

A : Would you like anything to drink? (คุณต้องการเครื่องดื่มอะไรไหมครับ)

B : I want a glass of Pepsi? (ฉันขอเปปซี่แก้วนึงค่ะ)

A : OK, just moment (โอเคครับ รอสักครู่นะครับ)

B : Thank you. (ขอบคุณค่ะ)

——————————

You : Hi. I want two chicken burger and one caesar salad? (สวัสดีค่ะ ฉันอยากได้เบอร์เกอร์ไก่ 2 ชุดและซีซ่าส์สลัด 1 ชุด)

Seller : What would you like to drink? (จะรับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ?)

You : Can I have just a cup of water? (ขอแค่แก้วเปล่าค่ะ)

Seller : Sure. Anythingelse? (ค่ะ. รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ?)

You : No. (ไม่ค่ะ)

Seller : Alright. That’s gonna be 18.85 dollars please. (ทั้งหมดคิดเป็นเงิน 18.85 ดอลล่าส์ค่ะ)

You : Here you go. (นี่ค่ะเงิน)

Seller : Thank you. Salad will be served at the table in two minutes. (ขอบคุณค่ะ. สลัดจะเสริฟที่โต๊ะของคุณในอีก 2 นาทีค่ะ)

——————————————————————————————

4. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร ::: สั่งอาหารและเครื่องดื่ม

A : What will you have, sir ?
(ว้อท วิล ยู แฮฟว เซอร์)
คุณจะสั่งอะไรดีคะ

B : Just a moment, please. I haven’t decided yet.
(จัส อะ โมเม้นท์ พลีส ไอ แอฟววึ่น ดีไซด์ด เยท)
รอสักครู่ครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ

B : What do you recommend?
(ว้อท ดู ยู เรคคอมเมนด์)
ไม่ทราบคุณจะแนะนำอาหารอะไรดีครับ

A : Our specialty for the day is roast duck.
(เอาว สเปเชียลที่ ฟอ เธอะ เดย์ อีส โรสท์ ดักค์)
อาหารพิเศษของเราวันนี้คือเป็ดอบค่ะ

A : What would you like for dessert ?
(ว้อท วู้ด ยู ไล้ค ฟอ ดีเซริท)
ไม่ทราบคุณจะรับของหวานอะไรดีคะ

B : I’ll skip the dessert.
(ไอ’ล สคิป เธอะ ดีเซริท)
ผมขอไม่รับของหวานครับ

B : This is not what I ordered.
(ธีส อีส น้อท ว้อท ไอ ออร์เดอร์ด)
จานนี้ไม่ใช่ที่ผมสั่งไปนี่ครับ

A : I’m sorry, sir.
(ไอม ซอรี่ เซอร์)
ขอโทษด้วยค่ะท่าน

——————————

A : Can I start you off with anything to drink? (คุณจะรับอะไรดีสำหรับเครื่องดื่มครับ)

B : Yes, may I have some water, please? (ค่ะ ฉันขอน้ำเปล่าได้ไหมค่ะ)

A : Sure, would you like any appetizers today? (ได้ครับ วันนี้คุณจะสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยอะไรไหมครับ)

B : May I get an order of barbeque wings? (ฉันจะสั่งปีกไก่บาร์บีคิวได้ไหมคะ)

A : No problem, can I get you anything else? (ไม่มีปัญหา คุณจะรับอะไรอีกไหมครับ)

B : No, thank you, that’ll be all for now. (ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ พอเท่านี้ก่อนค่ะ)

A : Let me know when you’re ready to order your food. (แจ้งให้ผมทราบด้วยครับเมื่อคุณพร้อมสั่งอาหาร)

B : I’m ready. (ฉันพร้อมแล้วค่ะ)

A : What can I get you? (คุณรับอะไรดีครับ)

B : May I have the Fettuccini Alfredo? (เอาพาสต้าอัลเฟรให้ฉันได้ไหมคะ)

A : Will that be all? (แค่นั้นใช่ไหมครับ)

B : Yes, that’s it. (ใช่ค่ะ แค่นั้นค่ะ)

——————————————————————————————

5. บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร

Cony : Hello there, I am Mr. Cony, I have a table for two reserved.
(เฮ็ลโล แด ไอ แอม มิสเตอะ ไวท ไอ แฮฝ อะ เท๊เบิล ฟอ ทู ริเซิฝดึ)
สวัสดีครับ ผมชื่อ โคนี่ ผมได้จองโต๊ะสำหรับสองคนไว้

Hostess : Hello, okay, let me just check. Ok, right this way sir.
(เฮ็ลโล โอ๊เค เล็ท มี จัสท เช็ค โอ๊เค ไรท ดิส เว เซอ)
สวัสดีค่ะ ขอดิฉันเช็คก่อนนะคะ เชิญทางนี้ค่ะท่าน

(พนักงานบริการเดินเข้ามา)

Waitress : Hello, I’m Christina, I will be your waitress today. Can I get you some drinks to start with? We also have some fresh Italian bread and a salad bar if you would like.
(ไฮ ไอม คริสติน่า ไอ วิล บี ยัว เว๊ทเทร็ส ทุเด๊ แคน ไอ เก็ท ยู ซัม ดริงส ทุ สตาท วิ๊ธ วี ออลโซ แอฝ ซัม เฟรช อิทแท๊ลเลียน เบรด แอน อะ แซ๊ลเลิด บา อิฟ ยู วุด ไลค)
สวัสดีค่ะ ดิฉันคริสติน่า ดิฉันจะเป็นพนักงานบริการของคุณวันนี้ จะให้ดิฉันเอาอะไรให้ท่านดื่มก่อนดีคะ เรามีขนมปังอิตาเลียนใหม่ๆและสลัดบาร์อีกด้วย ถ้าท่านต้องการ

Cony : I would love some bread; and some of your best wine please.
(ไอ วุด ลัฝ ซัม เบรด แอน ซัม ออฟ ยัว เบสท ไวน์ พลีส)
ผมขอขนมปังและไวน์ที่ดีที่สุดของคุณครับ

Waitress : Okay, would you like to hear about the specials today?
(โอ๊เค วุด ยู ไลค ทุ เฮีย อะเบ๊า เดอะ สเป๊เชียล ทุเด๊)
ค่ะ ท่านต้องการทราบเกี่ยวกับอาหารพิเศษของวันนี้ไหมคะ

Cony : No thank you. We already know what we want.
(โน แธ็งคิว วี ออลเร๊ดดิ โน ว็อท วี ว็อนท)
ไม่ครับ ขอบคุณ เราทราบแล้วว่าเราต้องการสั่งอะไร

Waitress : Okay then I will be right back with the wine and bread.
(โอ๊เค เด็น ไอ วิล บี ไรท แบ็ค วิธ เดอะ ไวน แอน เบรด)
ค่ะ งั้นดิฉันจะกลับมาพร้อมกับไวน์และขนมปังนะคะ

(ห้านาทีต่อมา)

Waitress : Here is a 2010 Bordeaux and Burgundy wine; you can’t get much better than this anywhere.
(เฮีย อิส อะ ทูเธ๊าเซิน เท็น บอโด๊ แอน เบ๊อกันดี ไวน์ ยู แค๊นท เก็ท มัช เบ็ทเทอะ แดน ดิส เอ็นนิแว)
นี่ค่ะ ไวน์เบอร์กันดีและบอร์โดปี 2010 ท่านไม่สามารถหาที่ไหนได้ดีกว่านี้แล้วค่ะ

Cony : Great.
(เกรท)
เยี่ยมเลย

Waitress : And the Italian bread is still warm from the oven.
(แอน ดิ อิทแท๊ลเลียน เบรด อิส สติล วอม ฟรอม ดิ อ๊อฝเวิน)
และขนมปังอิตาเลียนยังคงอุ่นจากเตาอบค่ะ

Cony : Thank you.
(แธงคิว)
ขอบคุณ

Waitress : Are you ready to order?
(อา ยู เร็ดดิ ทุ ออเด๊อะ)
ท่านพร้อมจะสั่งอาหารหรือยังคะ

Cony : Yes please. My wife would like the Eggplant Parmesan and I am going to have the Lobster Ravioli.
(เย็ส พลีส มาย ไวฟ ไลค์ ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น แอน ไอ แอม โกวิง ทุ แฮฝ เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ)
ครับ ภรรยาผมต้องการมะเขือม่วงอบชีส และผมขอราวีโอลีล็อบเสตอร์

Waitress : Okay, no problem. Can I do anything else for you?
(โอ๊เค โน พร๊อบเบลิม แคน ไอ ดู เอ็นนิธิง เอ็ลส ฟอ ยู๊)
ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา มีอย่างอื่นอีกไหมคะ

Cony : No thanks.
(โน แธงคส)
ไม่ครับ ขอบคุณ

(10 นาทีต่อมา)

Waitress : Here is the Eggplant Parmesan for you, madam and the Lobster Ravioli for you, sir.
(เฮีย อิส ดิ เอ็กพลานท พามิแซ๊น ฟอ ยู แม๊เดิม แอน เดอะ ล็อบเสตอะ แรวิโอ๊ลิ ฟอ ยู เซอ)
นี่ค่ะ มะเขือม่วงอบชีสสำหรับคุณนาย และราวีโอลี ล็อบเสตอร์สำหรับท่านค่ะ

Cony : Thanks.
(แธงคส)
ขอบคุณครับ

(ลูกค้าทานเสร็จ กวักมือเรียกพนักงานเก็บเงิน)

Cony : Can I have the bill, please.
(แคน ไอ แฮฝ เดอะ บิล พลีส)
ขอบิลด้วยครับ

Waitress : Here is your bill. Thank you for coming and I hope you have a great night.
(เฮีย อิส ยัว บิล แธงคิว ฟอ คั๊มมิง ทุไนท แอน ไอ โฮพ ยู อะ เกรท ไนท)
นี่ค่ะ บิลของคุณ ขอบคุณที่มาและขอให้เป็นคืนที่สดใสนะคะ

Cony : Thank you. We really enjoyed it.
(แธงคิว วี เรี๊ยลลิ อินจ๊อยด อิท)
ขอบคุณ พวกเราประทับใจจริงๆ

(ยี่นเงินให้พร้อมทิป)

Cony : Good night.
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์

Waitress : Good night.
(กุดไน๊ท)
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

——————————

Host : Hello sir, welcome to the French Garden Restaurant. How many?
เจ้าของร้าน : สวัสดี คุณผู้ชาย, ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารเฟรนช์ การ์เดน. จำนวนกี่ท่าน?

Charles : One.
ชาร์ลส : หนึ่งคน.

Host : Right this way. Please have a seat. Your waitress will be with you in a moment.
เจ้าของร้าน : งั้นเชิญทางนี้เลย เชิญนั่ง อีกสักครู่พนักงานเสิร์ฟของคุณจะมาคอยบริการ.

Waitress : Hello sir, would you like to order now?
พนักงานเสิร์ฟ : สวัสดี คุณผู้ชาย, ตอนนี้คุณอยากจะสั่งอะไรไหม?

Charles : Yes please.
ชาร์ลส : ใช่ครับ.

Waitress : What would you like to drink?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณ อยากจะดื่มอะไรไหม?

Charles : What do you have?
ชาร์ลส : คุณ มีอะไรบ้างล่ะ?

Waitress : We have bottled water, juice, and Coke.
พนักงานเสิร์ฟ : เรามีน้ำดื่ม, น้ำผลไม้, และโค้ก.

Charles : I’ll have a bottle of water please.
ชาร์ลส : ผมขอน้ำเปล่าขวดหนึ่ง.

Waitress : What would you like to eat?
พนักงานเสิร์ฟ : คุณอยากจะทานอะไร?

Charles : I’ll have a tuna fish sandwich and a bowl of vegetable soup.
ชาร์ลส : ผมจะทาน แซนวิชปลาทูน่า และ ซุปผักสักถ้วย.

อ้างอิง : http://engenjoy.blogspot.com/2016/03/at-coffee-shop.html


การถามทาง บอกทาง และข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว





การสอบถามเส้นทาง
- Excuse me, could you tell me how to get to …?
= ขอโทษนะครับ/คะ คุณพอจะบอกได้ไหมว่าจะไป…ได้อย่างไร

- Excuse me, do you know where the … is?
= ขอโทษนะครับ/คะ คุณทราบไหมว่า…อยู่ที่ไหน

- I’m looking for …
= ฉันกำลังหา…

- Is this the right way for …?
= ทางนี้ไป…ใช่ไหม

- the bus station
= สถานีรถโดยสาร

- the bus stop
= ป้ายรถเมล์

- this address
= ที่อยู่นี้

- Can you show me on the map?
= ช่วยบอกทางฉันบนแผนที่ได้ไหม

- I’m sorry, I don’t know
= ขอโทษครับ/ค่ะ ฉันไม่ทราบ

- Sorry, I’m not from around here
= ขอโทษคครับ/ค่ะ ฉันไม่ใช่คนแถวนี้

- You’re going the wrong way
= คุณกำลังไปผิดทาง

- Take this road
= ไปตามถนนนี้

- Take the first on the left
= แยกแรกให้เลี้ยวซ้าย

- Take the second on the right
= แยกที่สองให้เลี้ยวขวา

- Turn right at the crossroads
= ถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวา

- Turn right at the T-junction
= เลี้ยวขวาที่ทางสามแยก

- Go down there
= ไปทางนั้น

- Go under the bridge
= ลอดใต้สะพาน

- Go over the bridge
= ข้ามสะพาน

- Go over the roundabout
= เข้าไปในวงเวียน

- You’ll cross some railway lines
= คุณจะข้ามทางรถไฟ


- It’ll be …
= แล้ว … จะอยู่


- … on your left
= ทางซ้ายของคุณ

- … on your right
= ทางขวาของคุณ

- … straight ahead of you
= อยู่ตรงหน้าคุณ

การให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว
การหาที่พัก

- We’re looking for accommodation
= เรากำลังมองหาที่พัก

- We need somewhere to stay
= เราต้องการที่พัก

- Do you have a list of …?
= คุณมีรายชื่อ…ไหม

- … hotels
= โรงแรม

- … B&Bs (คำย่อของ bed and breakfasts)
= ห้องพักพร้อมอาหารเช้า

- … youth hostels
= ห้องพักราคาถูกสำหรับเยาวชน

- … campsites
= สถานที่ตั้งแคมป์

- What sort of accommodation are you looking for?
= คุณกำลังมองหาที่พักแบบไหน

- Can you book accommodation for me?
= คุณจะช่วยจองที่พักให้ดิฉัน/ผมได้ไหม

การเดินทางไปรอบๆ

- Do you have a map of the …?
= คุณมีแผนที่…ไหม

- … city
= เมืองใหญ่


- … town
= เมืองเล็ก

- Where’s the …?
= …อยู่ที่ไหน

- … city centre
= กลางเมือง

- … art gallery
= สถานที่แสดงศิลปะ

- … museum
= พิพิธภัณฑ์

- … main shopping area
= ร้านค้า

- … market
= ตลาด

- … railway station
= สถานีรถไฟ

- What’s the best way of getting around the city?
= เที่ยวรอบเมืองใช้ทางไหนดีที่สุด

- Where can I hire a car?
= ฉันจะเช่ารถได้ที่ไหน

เหตุการณ์และกิจกรรมต่างๆ
- What are you interested in?
= คุณสนใจอะไร

- Are there any … on at the moment?
= ตอนนี้ที่นั่นมี…ไหม

- … exhibitions
= นิทรรศการ

- … cultural events
= งานแสดงวัฒนธรรม

- … sporting events
= งานกีฬา

- Are there any …?
= ที่นั่นมี…ไหม

- … excursions
= การเดินทางระยะสั้น

- … tours
= ทัวร์

- … day trips
= การเที่ยวแบบ 1 วัน

- Is there a city tour?
= ที่นั่นมีทัวร์รอบเมืองไหม

- Could you tell us what’s on at the …?
= ช่วยบอกเราหน่อยได้ไหมว่ามีอะไรที่…

- … cinema
= โรงภาพยนตร์

- … theatre
= โรงละคร

- … concert hall
= ห้องแสดงคอนเสิร์ต

- … opera house
= โรงอุปรากร

- Can I book tickets here?
= ฉันสามารถจองตั๋วที่นี่ได้ไหม

- Do you have any brochures on …?
= คุณมีโบรชัวร์เกี่ยวกับ…ไหม

- … local attractions
= สถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น

- Can you recommend a good restaurant?
= ช่วยแนะนำร้านอาหารดีๆให้ได้ไหม
อ้างอิง : http://www.tonamorn.com/english/conversation/asking-giving-directions/


บทสนทนาเกี่ยวกับการซื้อขาย(Sentences used for purchasing and selling)





- Will (could) you show me some pens?
= (ช่วยเอาปากกาให้ผมดูหน่อยได้ไหม)

- Let me see some of these shirts.
= (ผมขอดูเสื้อเหล่านี้หน่อยครับ)

- That seems expensive.
= (ดูท่าจะแพงไปหน่อยนะ)

- I’m looking for shoes.
= (ผมกำลังมองหารองเท้าอยู่นะ)

- Do you mind if I try them on?
= (ผมขอลองสวมดูหน่อยได้ไหม)

- Do you have any smaller ones?
= (คุณมีขนาดเล็กกว่านี้ไหมครับ)

- Do you have any sweaters (สเว็ท-เท่อส์) for theteenager?
= (คุณมีเสื้อหนาวสำหรับวัยรุ่นไหม)

- Do you have a less expensive one?
= (คุณมีชนิด-ยี่ห้อ-ตัว-ด้าม ที่ราคาถูกกว่านี้ไหม)

- Very well, I’ll take them all.
= (ดีมาก ผมซื้อทั้งหมดเลย)

- I’ll take this one.
= (ผมจะเอาด้ามนี้-ตัวนี้-เล่มนี้ ครับ)

- That’s not quite what I have in mind.
= (อันนั้นไม่ใช่อย่างที่ผมคิดจะซื้อครับ – ไม่ใช่อย่างที่ผมต้องการครับ)

- We are out of stock now.
= (ตอนนี้เราหมดสต็อคแล้ว)

- We expect a shipment in a few days.
= (เราคาดว่าสินค้าจะขนส่งมาในอีกสองสามวันครับ)

- These are of the finest quality.
= (นี้เป็นชนิดที่ดีที่สุดครับ)

- These are the best we have.
= (นี้เป็นพวกที่ดีที่สุดที่เรามีครับ)

- What color do you prefer?
= (คุณชอบสีไหนครับ)

- Does that blue one suit you?
= (ตัวสีฟ้านั่นเหมาะกับคุณไหมครับ)

- What size do you wear?
= (คุณสวมขนาด-เบอร์-อะไรครับ)

- What size, please?
= (ขนาดเท่าใดครับ – เสื้อ – รองเท้า – กางเกง)

- Which would you prefer, a green or red one?
= (คุณชอบตัวไหนครับ เสื้อ-กางเกง-ตัวสีเขียวหรือแดง)

- How much does it cost? หรือ How much is it?
= (ราคาเท่าไรครับ)

- We offer you the most competitive price. This is our price list.
= (เราเสนอขายในราคาที่แข่งขันกับเจ้าอื่นอย่างมากเลย นี่เป็นรายการราคาของเราครับ)

- 1,500 Baht is a little expensive for me.
= (ราคา 1,500 บาท แพงไปหน่อยสำหรับผม)

- It seems to me I used to buy shoes like these for only 1,000 Baht last year.
= (ดูเหมือนว่าผมเคยซื้อรองเท้าแบบนี้ราคาเพียง 1,000 บาทเมื่อปีที่แล้ว)

- I believe (think) I’ll take this pair.
= (ผมคิดว่าผมเอาคู่นี้นะ)

- Would (will) you like it wrapped (แรพ-ทึ) as a gift?
= (คุณต้องการให้ห่อเป็นของขวัญหรือเปล่าครับ)

- Would (will) you wrap them up, please?
= (กรุณาห่อให้ด้วยครับ)

- Do you have a skirt like this?
= (คุณมีกระโปรงแบบนี้ไหมคะ)

- Do you have this necktie in red?
= (คุณมีเนคไทแบบนี้สีแดงไหมครับ)

- Do you sell bags?
= (คุณขายกระเป๋าหรือเปล่าครับ)

- I want something like this.
= (ชั้นต้องการอันที่เหมือนกับอันนี้ค่ะ)

- Could (can) you show me another kind?
= (ขอดูชนิดอื่นได้ไหมครับ)

- Do you get (have) a smaller size?
= (มีขนาดเล็กกว่านี้ไหมครับ)

- Have you got (หรือ Do you have) a bigger size?
= (มีขนาดใหญ่กว่านี้ไหมครับ)

- Do you have (หรือ Have you got) a free size?
= (คุณมีขนาดฟรีไซส์ไหม)

- Is this a free size?
= (ตัวนี้ขนาดฟรีไซส์หรือเปล่า)

- Do you have the new ones?
= (มีตัว-ด้าม-เล่ม-อัน ใหม่ไหม)

- Are there any other colors?
= (มีสีอื่นไหมครับ)

- Is there anything else (you want to buy)?
= (ต้องการสินค้าอย่างอื่นอีกไหมครับ)

- Are you sure you don’t need anything else?
= (แน่ใจหรือครับว่าไม่ต้องการ-สินค้า-อย่างอื่นอีก)

- Here is your receipt (รี-ซีท).
= (นี่ใบเสร็จของคุณครับ)

- Here is your change.
= (นี่ตังค์ทอนของคุณครับ)

- Thank you, please call again.
= (ขอบคุณครับ แล้วแวะมาร้านเราอีกนะครับ)

ตัวอย่างบทสนทนาซื้อ-ขาย

ตัวอย่างที่ 1 (ที่ร้านขายกล้องถ่ายรูป)
A (คนขาย): Excuse me. What can I do for you?
(ขอโทษครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ – ต้องการอะไรครับ)

B (ลูกค้า): I would like to buy a digital camera. Which one would you recommend?
(ผมต้องการซื้อกล้องถ่ายรูปดิจืตอล คุณจะแนะนำตัวไหนล่ะ)

A: How about this one. It’s the latest model we have imported from Japan.
(ตัวนี้เป็นไงครับ เป็นตัวใหม่ล่าสุดที่เรานำเข้าจากญี่ปุ่น)

B: Is there a guarantee?
(มีรับประกันไหม)

A: Sure. The guarantee is valid for one year.
(แน่นอน มีครับ มีประกันหนึ่งปี)

B: How much does it cost? หรือ How much is it?
(ราคาเท่าไหร่นะ)

A: 10,000 Baht, sir.
(หนึ่งหมื่นบาทครับ)

B: Well, I’ll take the red one.
(ผมเอาตัว-กล้อง-สีแดงนะ)
_______________________

ตัวอย่างที่2 (ที่ร้านขายเสื้อผ้า –At the fashion shop)

A (คนขาย): Good morning. What can I do for you?
(หวัดดีค่ะ มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ – ต้องการอะไรคะ)

B (ลูกค้า): Sure. Let me see some of these neckties.
(มีสิ ผมขอดูเนคไทพวกนี้หน่อย)

A: Certainly. What color do you like?
(ได้ค่ะ คุณชอบสีอะไรคะ)

B: Red, blue or yellow will do.
(สีแดง น้ำเงิน หรือเหลืองก็ได้)

A: Are these ones OK?
(เนคไทพวกนี้ใช้ได้ไหมคะ)

B: OK. I’ll take a blue and a yellow one. How much are they? (ตกลง ผมเอาเส้นสีน้ำเงินและเส้นสีเหลืองนะ ราคาเท่าไรล่ะ)

A: Two hundred baht, each. The total is 400 baht, sir. (เส้นละสองร้อยบาทค่ะ รวมทั้งหมดเป็นสี่ร้อยบาทค่ะ)

B: Good. It is quite reasonable. Could you wrap them up for me, please? (ดี ราคาไม่แพงนี่ กรุณาห่อให้ด้วยนะ)

_______________________

ตัวอย่างที่3 (At the fashion shopหรือ cloth shop)
A (คนขาย): Good morning. May I help you?
(หวัดดีครับ ต้องการรับอะไรครับ)

B (ลูกค้า): I would like to get a jacket like this one, but I don’t like the color. Do you have a black one?
(ผมอยากได้เสื้อแจ๊กเกตแบบตัวนี้ แต่ผมไม่ชอบสีนี้ คุณมีตัวสีดำไหม)

A: Just a moment, please. I’ll look for it.
(รอประเดี๋ยวนะครับ ผมจะหาตัวสีดำให้)

B: OK. Thanks.
(ได้ ขอบใจมาก)

A: Here you are, a black one.
(นี่ครับ ตัวสีดำ)

B: Thank you. May (can) I try it on?
(ขอบคุณนะ ผมขอลองได้ไหม)

A: Certainly, go ahead.
(ได้ครับ เชิญเลย)

__________________________

ตัวอย่างที่4 (In the Department store)

( A = ลูกค้าจากต่างเมือง, B = พนักงานของห้าง )
A: This is my last day here(หรือ in this city) . I would like to do some shopping. Can you help me young man?
(ผมอยู่เมืองนี้วันสุดท้ายแล้ว อยากจะหาซื้อของหน่อย ช่วยผมหน่อยได้ไหมพ่อหนุ่ม)

B: No problem. I’ll show you round.
(ไม่มีปัญหาครับ ผมจะพาคุณเดินชมห้าง)

A: I would like to see some raincoats.
(ผมอยากดูเสื้อฝนสักสองสามตัว)

B: They are on the third floor, sir.
(อ๋อ อยู่ชั้นสามครับ)

A: Let’s take the elevator (เอล-ลี-เว้-เท่อร์) or escalator (เอส-คา-เล้-เท่อร์).
(เราขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อนกันเถอะ)

B: Here we are.
(เอาละ ถึงชั้นสามแล้วครับ)

A: Can I see one of those raincoats?
(ผมขอดูเสื้อฝนสักตัวได้ไหม)

B: Certainly, sir.
(ได้ซิครับ)

A: It’s too heavy. Do you have something lighter?
(ผ้ามันหนาไปหน่อย คุณมีตัวที่บางกว่านี้ไหม)

B: Yes, of course, sir. How do you like this one?
(มีสิครับ คุณชอบตัวนี้ไหม)

A: It looks fine. But I don’t like the color. This one is better. How much does it cost?
(ดูสวยดีนะ แต่ผมไม่ชอบสืนี้ ตัวนี้ดูดีกว่านะ ราคาเท่าไรล่ะ)

B: 900 baht, sir.
(เก้าร้อยบาทครับ)

A: OK. I’ll take this one.
(ตกลง ผมเอาตัวนี้นะ)

B: Thank you, sir.
(ขอบคุณครับ)

A: Could you show me some shoes?
(ผมขอดูรองเท้าหน่อยนะ)

B: What color, sir? Brown or black?
(จะเอาสีอะไรครับ น้าตาลหรือดำ)

A: Brown will do.
(สีน้ำตาลดีกว่านะ)

B: What size, sir?
(คุณใส่เบอร์อะไรครับ)

A: Size 8. This pair is just fine. What’s the price?
(เบอร์แปด คู่นี้พอดีเลย ราคาเท่าไรเนี่ย)

B: 2,000 baht, sir.
(สองพันบาทครับ)

A: Can you deliver (ดิ-ลิฟ-เว่อร์) them to my hotel? This is the name and address.
(ช่วยส่งเสื้อฝนและรองเท้าไปให้ผมที่โรงแรมนะ นี่ชื่อและที่อยู่ของผม)

B: Thank you, sir. We’ll have them delivered to you sometime tomorrow. Please pay at the cash counter, sir.
(ขอบคุณครับ ผมจะส่งไปให้คุณพรุ่งนี้ โปรดจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เก็บเงินด้วยครับ)

A: Thanks a lot.
(ขอบใจมากนะน้อง)

_____________________________

ตัวอย่างที่5 (At the fashion shop)

A (คนขาย): May I help you?
(ต้องการสินค้าอะไรครับ)

B (ลูกค้า): Yes, I’m looking for a shirt.
(ผมอยากได้เสื้อเชิ้ตสักตัวนึง)

A: What size do you wear?
(ขนาดเท่าไรครับ)

B: XL, I believe. I’ve been putting on some weight lately.
(ผมว่าเบอร์ XL นะ น้าหนักผมเพิ่มขึ้นนะหมู่นี้)

A: XL-size shirts are over there. What color would you prefer (หรือ like)?
(ขนาด xl อยู่ตรงโน้นครับ คุณชอบสีอะไรล่ะ)

B: Blue, I think.
(สีน้ำเงินน่ะ)

A: Here is a nice blue shirt.
(นี่ครับตัวสีน้ำเงิน อย่างสวยเลย)

B: That’s not bad. How much is it?
(ไม่เลวนะ ราคาเท่าไรล่ะ)

A: Five hundred baht, sir. It is not expensive. I charge you at a discount rate for our regular customers.
(ตัวละห้าร้อยบาทครับ ไม่แพงนะครับ ผมคิดในราคาลดสำหรับลูกค้าประจำ)

B: It’s still expensive, I think. Can’t you lower the price? (หรือ Can’t you make it less?)
(แพงไปนะผมว่า ลดให้หน่อยได้ไหม)

A: Four hundred and fifty, will that do for you? Don’t you see this is a fine material?
( 450 บาทเป็นไงสำหรับคุณ ดูซิครับผ้าเนื้อดีเลย)

B: It is, but it should not have cost more than four hundred.
(ก็ดีอยู่หรอก แต่ราคาไม่น่าถึงสี่ร้อยนะ)

A: Bargain, if you please?
(คุณลองต่อมาสิครับ)

B: Well, then, can I have it for 400?
(งั้น 400 บาทได้ไหม)

A: Say another word, sir.
(ลองบอกราคาอีกทีสิครับ)

B: That’s reasonable.
(สี่ร้อยบาทนั่นเหมาะสมแล้ว)

A: But really (เรี้ยล-ลี่), that does not even cover the cost.
(แต่จริงจริงนะครับ สี่ร้อยบาทน่ะ ทุนยังไม่ได้เลย)

B: Will you let me have it or not?
(แล้วคุณจะให้ผมราคานี้หรือเปล่าล่ะ)

A: OK, if you insist on the price, but this is only for you, our long-time customer. How many do you want?
(ตกลงครับถ้าคุณยังยืนกรานราคาสี่ร้อย แต่ราคานี้สำหรับคุณคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นลูกค้าเรามายาวนาน คุณจะรับกี่ตัวครับ)

B: Two. Wrap them up for me, please.
(เอาสองตัว ห่อให้ผมด้วยนะ)

A: Here you are.
(นี่ครับ เสื้อสองตัวของคุณ)

B: Here is your money. A thousand-baht note.
(เอ้านี่สตางค์ แบงค์หนึ่งพันนะ)

A: Thank you. Here’s your change, 200 baht. Come to see us again if you happen to pass by this area, good-bye.
(ขอบคุณ นี่ตังค์ทอนสองร้อยบาทครับ แวะมาหาเราอีกนะครับ ถ้าคุณบังเอิญผ่านมาแถวนี้ สวัสดีครับ)

B: Good-bye. Have a nice day, young man.
(หวัดดี โชคดีนะพ่อหนุ่ม)

_____________________________

ตัวอย่างที่6 (At a cloth shop– ที่ร้านขายผ้า)

(A = คนขาย, B = ลูกค้าหญิง)
A: Good morning, ma’am (แมม). What can I do for you?
(หวัดดีครับคุณนาย ต้องการอะไรหรือครับ)

B: I’m looking for a kind of cloth (โคลธ). May I look around?
(ชั้นกำลังหาผ้าชนิดหนึ่ง ชั้นขอดูทั่วทั่วก่อนนะ)

A: Certainly, ma’am. May I show you some new things? How do you like this one which is now in fashion?
(เชิญเลยครับคุณนาย ผมขอเสนอผ้าใหม่ให้คุณนายชมครับ ชอบแบบนี้ไหมครับ กำลังอยู่ในสมัยนิยมทีเดียว)

B: I don’t care about new fashion. I want only good material.
(ชั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องสมัยนิยมนักหรอก ชั้นต้องการแต่ผ้าเนื้อดีดีเท่านั้น)

A: Then here’s another. It’s very nice and washable.
(ถ้างั้นก็ชนิดนี้สิครับ มันเก๋ดีและซักน้าได้ด้วย)

B: But it’s too showy. I don’t like this design.
(แต่มันดูฉูดฉาดไปหน่อยนะ ชั้นไม่ค่อยชอบแบบนี้นักหรอก)

A: You may like plain material like this.
(งั้นคุณนายคงชอบผ้าเรียบเรียบแบบนี้มังครับ)

B: I want something light and cool.
(ชั้นอยากได้ผ้าเนื้อเบาเบา และสวมแล้วเย็นดี)

A: How about this, ma’am. This is a very gay one. Maybe you’ll care for this chiffon (ชิฟ-ฟอน).
(ผ้าชนิดนี้เป็นไงครับ มันสะดุดตาดีมาก บางทีคุณอาจจะชอบแพรหรือใยสังเคราะห์ – แบบนี้ครับ)

B: I’m afraid this stuff won’t wear well.
(ชั้นเกรงว่าผ้าชนิดนี้จะใส่ไม่ทนนะสิ)

A: Sure, ma’am. You may take it on my word. I guarantee the color won’t fade. So durable, so handsome, ma’am.
(รับรองครับคุณนาย เชื่อคำพูดผมได้เลยครับ ผมรับประกันเลยว่าสีไม่ตกหรือซีด ทั้งทนทาน ทั้งงดงามเลยคุณนาย)

B: Let me see that light blue, please.
(ชั้นขอดูสีฟ้านั่นหน่อยนะ)

A: This is rayon (เร-ยอน), ma’am.
(ชนิดนี้เป็นป่านเรยองครับ)

B: What is the width?
(หน้ากว้างเท่าไรนะ)

A: It is 36 inches wide, ma’am.
(หน้ากว้างสามสิบหกนิ้วครับ)

B: How much is it a yard?
(หลาละเท่าไรนะ)

A: Two hundred baht a yard, ma’am.
(หลาละ 200 ครับ)

B: I think it is too much. I can’t afford to pay such a price. Can you make it one hundred and fifty?
(ชั้นคิดว่าแพงไปหน่อย ชั้นไม่มีตังค์จ่ายราคาเท่านี้หรอก ลดให้เหลือ 150 ได้ไหม)

A: Sorry, ma’am. We already charge you at the lowest price. But I’ll give you 20 baht discount.
(เสียใจครับคุณนาย เราคิดราคาต่าสุดแล้ว แต่ผมจะลดให้หลาละ 20 บาทครับ)

B: Good, I’ll take 6 yards of it, can you lower your price?
(ดี ชั้นต้องการ 6 หลา ลดให้อีกหน่อยได้ไหมล่ะ)

A: We have no profit (พรอฟ-ฟิท) in selling this cloth (โครธ), ma’am.
(เราแทบไม่มีกำไรเลยในการขายผ้ารุ่นนี้)

OK. I’ll take 6 yards. Wrap it up for me, please.
(ตกลง ชั้นซื้อ 6 หลา ห่อให้ด้วยนะ)


อ้างอิง : http://everydayenglish.pwa.co.th/article/บทสนทนาเกี่ยวกับการซื้อขายsentences-used-purchasing-and-selling



No comments:

Post a Comment